วันศุกร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2554

ดอยอ่างขาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่

สำหรับทริปนี้ก็เป็นอีกหนึ่งทริปที่น่าสนใจ น่าไปสัมผัสบรรยากาศความหนาว อีกทั้งอากาศบริสุทธิ์บนยอดดอย ทริปนี้ฉันจึงขอแนะนำดอนอ่างขาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่   สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ( ดอยอ่างขาง ) เป็นสถานีวิจัยแห่งแรกของโครงการหลวง ตั้งอยู่บนเทือกเขาตะนาวศรี ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่        มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,400 เมตร และมียอดดอยสูงถึง 1,928 เมตร พื้นที่รับผิดชอบประมาณ 26.52 ตารางกิโลเมตร หรือ 16,577 ไร่ จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2512 ตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ว่า "ให้เขาช่วยตัวเอง" เปลี่ยนพื้นที่จากไร่ฝิ่นมาเป็นแปลงเกษตรเมืองหนาวที่สร้างรายได้ดีกว่าเก่าก่อน  ปัจจุบัน ดอยอ่างขาง ได้เปลี่ยนสภาพจากภูเขาซึ่งถูกตัดไม้ทำลายป่ามาเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ มีพันธุ์ไม้ผลกว่า 12 ชนิด ผักเมืองหนาวกว่า 60 ชนิด และไม้ดอกเมืองหนาวมากกว่า 20 ชนิด สภาพอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 16.9 องศาเซลเซียส มีชาวไทยภูเขาเผ่าจีนฮ่อ ไทยใหญ่ มูเซอดำ และปะหล่อง อาศัยอยู่โดยรอบกว่า 600 ครัวเรือนใน 6 หมู่บ้าน
สถานที่น่าสนใจภายในสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ได้แก่
  • สวนแปดสิบ (สวน80)  สวนแปดสิบ เป็นสวนดอกไม้เมืองหนาว ซึ่งมีดอกไม้เมืองหนาวสีสันสดใส ประดับประดาอยู่มากมาย อันได้แก่ กะหล่ำแฟนซี ซึ่งมีทั้งสีขาว และสีม่วง, เยอบีร่า, รูบาร์ป, คริสต์มาส, เทียนแฟนซี, แซลเวีย และดอกไม้อื่น ๆ อีกมากมาย
  • สวนกุหลาบ สวนกุหลาบ เป็นที่รวบรวมกุหลาบมากมายหลายพันธ์ ส่วนใหญ่เป็นกุหลาบขนาดใหญ่ สวนกุหลาบตั้งอยู่ทางด้านซ้ายของที่ทำการสถานีเกษตร ฯ
  • สวนบอนไซ สวนบอนไซ อยู่ในบริเวณสถานีฯ เป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์ไม้เขตอบอุ่นและเขตหนาวทั้งในและต่างประเทศ ปลูก ดัด แต่ง โดยใช้เทคนิคบอนไซ สวยงามน่าชม และในบริเวณเดียวกันยังมีสวนสมุนไพร ฤดูท่องเที่ยวอยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-มกราคม
  • หมู่บ้านคุ้ม ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีฯ เป็นชุมชนเล็กๆ ประกอบด้วยผู้อยู่อาศัยหลายเชื้อชาติอยู่รวมกัน อาทิชาวไทยใหญ่ ชาวพม่าและชาวจีนฮ่อ ซึ่งได้ตั้งถิ่นฐานอยู่ในบริเวณนี้และเปิดร้านค้าบริการแก่นักท่องเที่ยว
จุดชมวิวกิ่วลม  อยู่ทางด้านซ้ายมือก่อนถึงทางแยกซึ่งจะไปหมู่บ้านปะหล่องนอแลทางหนึ่ง และบ้านมูเซอขอบด้งทางหนึ่ง สามารถชมทะเลหมอกและวิวพระอาทิตย์ทั้งขึ้นและตก มองเห็นทิวเขารอบด้านและหากฟ้าเปิดจะมองเห็นสถานีเกษตรหลวงอ่างขางด้วย
หมู่บ้านนอแล ตั้งอยู่บริเวณชายแดนไทย - พม่า คนที่นี่เป็นชาวเขาเผ่าปะหล่องเชื้อสายพม่า แต่เดิมคนกลุ่มนี้อยู่ในพม่าและพึ่งอพยพมา มีภาษาและวัฒนธรรมเป็นของตนเอง นับถือศาสนาพุทธ ทุกวันพระผู้คนที่นี่หยุดอยู่บ้านถือศีล จากหมู่บ้านนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์สวยงามของธรรมชาติบริเวณพรมแดนไทย-พม่า


ที่พัก ร้านอาหาร     บ้านพักรับรองภายในศูนย์ฯ จำนวน 18 หลัง  ขนาดพัก 2 คน ราคา 1,000 บาท/หลัง/คืน ขนาดพัก 6 คน ราคา 1,200 บาท/หลัง/คืน และขนาดพัก 40 คน ราคา 150 บาท/คน/คืน
เต็นท์บริการ ขนาด 2-3 คน ราคา 150 บาท/หลัง/คืน หากรวมถุงนอนราคา 300 บาท/หลัง/คืน ขนาด 4-5 คน ราคา 300 บาท/หลัง/คืน หากรวมถุงนอน ราคา 500 บาท/หลัง/คืน กรณีนำเต็นท์มาเองคิดค่าบริการพื้นที่คนละ 20 บาท
มีร้านอาหารและเครื่องดื่มภายในสโมสรอ่างขาง
หมายเหตุ.- กรุณาสำรองที่พักล่วงหน้าก่อนเดินทางอย่างน้อย 1 เดือน โทร. 0-5345-0107-9
           การเดินทาง  เส้นทางที่ 1 จากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้เส้นทางหลวงสาย 107 เชียงใหม่-ฝาง เลี้ยวซ้ายทางแยกตำบลเมืองงาย ตรงเข้าเส้นทางหลวงสาย1178 ผ่านบ้านอรุโณทัยไปยังศูนย์ฯ
เส้นทางที่ 2 จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เส้นทางหลวงสาย 107 เชียงใหม่-ฝาง ถึง กม. 137 แยกบ้านปางควาย เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงสาย 1249 ตรงไปประมาณ 25 กิโลเมตร
หมายเหตุ - ใช้รถยนต์ได้ทุกประเภท (ควรเช็คสภาพเครื่องยนต์ก่อนขึ้นเขา และผู้ขับขี่ควรมีประสบการณ์ เพราะเส้นทางมีความชันมาก) หรือใช้บริการรถยนต์รับจ้าง จุดจอด ณ ปากทางขึ้นดอยอ่างขาง ราคาเหมา 1,000 - 1,500 บาท


วันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2554

อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ความทรงจำดีๆ



       ทริปนี้ฉันขอนำเสนอ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน  ซึ่งเป็นทริปที่ฉันได้ไปสัมผัสบรรยากาศความหนาวที่นี่มาแล้ว ขอบอกได้เลยว่า ไปแล้วไม่เสียเที่ยวจริงๆ เป็นสถานที่อีกที่หนึ่งที่น่าสนใจ เหมาะที่จะไปสัมผัสบรรยากาศความหนาวและธรรมชาติป่าเขาล้อมรอบ แต่ก็น่าเสียดายที่ฉันไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้ การไปเที่ยว อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอนในครั้งนั้นก็มีความประทับใจและความทรงจำดีๆอีกมากมาย พร้อมทั้งมิตรภาพในการเดินทาง เพราะการเดินทางไป อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอนในครั้งนั้นฉันได้เดินทางไปกับชมรมรถแลมเบรตต้า ขอบอกได้เลยว่าได้สัมผัสธรรมชาติของป่าเขาตลอดเส้นทางอย่างแท้จริง และคุ้มค่าต่อการไปออกทริปครั้งนั้นจริงๆ

       ปาย อำเภอเล็กๆในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศมาเยือนอย่างไม่ขาดสาย  ความเงียบสงบ ลำน้ำปายสายน้อยที่ไหลเอื่อยผ่านกระต๊อบเล็กๆ อันเป็นที่พำนักของนักท่องเที่ยว ภูเขาที่ใหญ่น้อยที่โอบล้อม  เป็นเสน่ห์ที่ประทับใจนักท่องเที่ยวอย่างไม่รู้เลือน   ในฤดูฝนริมลำน้ำปายจะดารดาษไปด้วยทุ่งนาข้าวเขียวขจี และเมื่อย่างเข้าฤดูหนาว ทุ่งนาข้าวก็จะแปรเปลี่ยนเป็นไร่กระเทียมที่ทอดตัวยาวไปจรดเชิงเขา ท่ามกลาง สายหมอกเย็นระรื่น รุ่งเช้าไอหมอกจากแม่น้ำปาย ค่อยๆ สะสมปกคลุมไปทั้งตัวเมือง ให้ทุกสิ่งของเมืองปายดูเลือนรางแต่กลับเต็มไปด้วยเสน่ห์ ยามสายหมอกจางหาย เหลือเพียงเมืองเล็กๆ ที่เงียบสงบกรุ่นกลิ่นไอศิลปะและอารมณ์สบายๆ    น่านั่งจิบกาแฟปล่อยอารมณ์ให้ไหลไปกับเวลาที่ค่อยๆ ย่างก้าวไปข้างหน้าอย่างช้าๆ  ใกล้ๆ เที่ยง วิถีปายก็เปลี่ยนไป มอเตอร์ไซค์คันน้อยจะทยอยออกจากเมือง พานักท่องเที่ยวรับลมและสัมผัสกับธรรมชาติรอบๆ เมืองน้อยกลางหุบเขาแห่งนี้ หรือพานักท่องเที่ยวมุ่งหน้าเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยว สำคัญอันหลากหลาย ทั้งวัดน้ำฮู  Coffee in Love หรือ ศูนย์วัฒนธรรมยูนนาน จนกระทั่งราตรีมาเยี่ยมเยือน ถนนก็เริ่มครึกครื้น ร้านขายโปสการ์ด hand-made เปิดไฟสีนวลให้ร้านยิ่งน่ารักชวนมอง ชาวดอยต่างๆ ก็ปูผ้ากันริมถนนขายสินค้าพื้นเมือง ทั้งย่ามทอมือ ผ้าปักหลากสี เสียงเพลง Ginger Tea แว่วดังขึ้น ชาวต่างชาติกลุ่มใหญ่ก็เข้ามารุมล้อมรถเข็นขายน้ำขิงในกระบอกไม้ไผ่ และรับฟังเพลงน่ารักๆ จากปากแม่ค้า ตกดึกเสียงเพลงบอสซ่าใสๆ สไตล์อาร์ต ๆ เริ่มคลอเคลียสู่ผู้มาเยือน เรียกให้เข้าไปผ่อนคลายร่างกายในร้านกินดื่ม ไม่ว่าจะเป็นร้านดั้งเดิมเป็นที่นิยมของปายอย่าง B-Bop และร้านเก่า-ใหม่มากมาย ฝรั่งซำเหมาเริ่มย่างเท้าเข้าร้านประจำ ฝรั่งแบคแพคส่วนใหญ่ แค่เบียร์สองขวดก็ดื่มได้ทั้งคืน เป็นนัยว่าแอลกอฮอล์เป็นแค่ส่วนประกอบของการนั่งละเลียดอารมณ์ แบ่งปันประสบการณ์กับเพื่อนๆนักท่องเที่ยวกัน ทุกอย่างนี้ล้วนแต่งแต้มสีสันเมืองปายในยามราตรีให้ดูสดใสทุกค่ำคืน


การเดินทางไปอ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอนในอดีตเป็นเมืองที่เร้นลับและทุรกันดาร ในสายตาของนักท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไป เนื่องจากเดิมนั้นการเดินทางเข้าสู่จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีถนนเพียงสายเดียว คือ ทางหลวงหมายเลข 108 ซึ่งตัดจากจังหวัดเชียงใหม่ผ่านอำเภอหางดง สันป่าตอง จอมทอง ฮอด แม่สะเรียง แม่ลาน้อย และขุนยวม มาถึงอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน รวมระยะทางประมาณ 349 กิโลเมตร เส้นทางสายนี้เป็นทางตัดขึ้นเขาสูง มีความสวยงามและคดเคี้ยวนับได้มากถึง 1,864 โค้ง
               ปัจจุบันมีถนนจากจังหวัดเชียงใหม่ถึงแม่ฮ่องสอน เพิ่มขึ้นอีกสายหนึ่งคือทางหลวงหมายเลข 1095 หรือที่เรียกโดยทั่วไปว่าเส้นทางสายแม่มาลัย-ปาย ตัดจากอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ถึงอำเภอปายจังหวัดแม่ฮ่องสอนเหลือระยะทางเพียง 245 กิโลเมตร
              นอกจากนี้ เส้นทางนี้ยังเป็นเส้นทางผ่านไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ด้วย อาทิ ห้วยน้ำดัง และถ้ำต่างๆ ปัจจุบันเป็นถนนลาดยางอย่างดีตลอดสาย และหากนักท่องเที่ยวสนใจ เดินทางจากจังหวัดตากไปยังจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยไม่แวะเข้าจังหวัดเชียงใหม่ก็สามารถเดินทางได้ตามทางหลวงหมายเลข 108 ผ่านอำเภอแม่สอด-แม่ระมาด-ท่าสองยาง ถึงอำเภอแม่สะเรียง มีระยะทางประมาณ 300 กิโลเมตร เป็นทางลาดยาง
ส่วนผู้ที่จะนั่งรถโดยสาร สามารถไปขึ้นรถโดยสารได้ที่สถานีขนส่งอาเขต จังหวัดเชียงใหม่ เป็นรถเมล์ขนาดเล็กไม่มีเครื่องปรับอากาศ ราคาค่าโดยสาร 68 บาท ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง หรือนั่งรถตู้ ราคา 160 บาท ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
อีกทางหนึ่งที่อยากแนะนำ คือนั่งเครื่องบินคะ ซึ่งเพื่อนๆ จะได้เห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม จากมุมมองของเครื่องบิน  ซึ่งสามารถ ถ่ายภาพสวยๆ  ของอ.ปาย  ในมุมมองที่ไม่เหมือนใคร ช่วงนี้ทางสายการบิน เค้ามีโปรโมชั่น พร้อมที่พักในราคาที่แสนถูกด้วยนะคะ



 
ที่พักปาย เป็นที่พักราคาไม่แพงจนเกินไปนัก เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวกันเลยทีเดียวลองมาดูกันว่า ที่พักปายมีที่ไหนที่น่าสนใจกันบ้าง โดยด้านล่างนี้จะเป็นที่พักปายหลายๆแบบ มีตั้งแต่ถูกจนถึงแพง ให้เลือกคลิกได้ที่เว็ปนี้ค่ะ http://www.xn--12c8bmjx0gkw5o.com/